Thursday, September 11, 2014

หลักในการกินผลไม้ที่ถูกต้อง เป็นมะเร็งแล้วไม่ตาย

****เป็นมะเร็งแล้วไม่ตาย****

มหาวิทยาลัยไถต้าประเทศไต้หวัน นายแพทย์หวังเจิ่นอิ ผู้เชี่ยวชาญด้านกระเพาะอาหารและลำไส้ ได้บอกด้วยความปราถนาดีว่า ให้กินผลไม้ในช่วงที่ท้องยังว่าง นั่นก็คือก่อนอาหารนั่นเองและหลังอาหารให้ดื่มเครื่องดื่มที่ร้อน
เท่านี้คนที่เป็นมะเร็งก็จะไม่ตายแล้ว

ศาสตราจารย์ นายแพทย์หวังเจิ่นอิ ศาสตราจารย์กิตติมศักดิ์ของมหาวิทยาลัยไถต้าพูดต่อว่า การนำวิธีดังกล่าวมาใช้นั้น สัมฤทธิ์ผลถึง 80% ซึ่งคนไข้ที่ป่วยด้วยโรคมะเร็งมีโอกาสจะหาย ไม่ว่าท่านจะเชื่อหรือไม่ก็ตาม ผมเชื่อว่าวิธีการรักษาได้ถูกค้นพบแล้ว

สำหรับผู้ที่บำบัดและรักษาด้วยวิธีที่ใช้อยู่โดยทั่วไป ซึ่งสุดท้ายผู้ป่วยต้องเสียชีวิตไปและข้าพเจ้ารู้สึกเสียดายเป็นอย่างยิ่ง หลังบำบัดมีคนไข้ไม่กี่คนที่สามารถอยู่รอดได้เกิน 5 ปี ส่วนใหญ่แล้วจะอยู่รอดได้ 2-3 ปีเท่านั้น จึงถูกมองว่าการรักษาที่ใช้โดยทั่วไปดูแล้วไม่น่าจะได้ผล ปกติผู้ป่วยไม่รับการรักษาใดๆทั้งสิ้น ผู้ป่วยก็สามารถอยู่รอดได้ถึง 2-3 ปีอยู่แล้ว การรักษาที่ใช้โดยทั่วไปนั้น คนไข้จะถูกบำบัดด้วยเคมีหรือระบบฉายแสง ซึ่งทำให้เซลที่ดีของคนไข้พลอยได้รับพิษเข้าไปด้วย มีผลทำให้ร่างกายยิ่งอ่อนแอลง เซลจึงไม่มีแรงต่อต้านหรือไม่มีภูมิคุ้มกัน จึงทำให้เชื้อแพร่กระจายเร็วขี้น และมีผลต่อการก่อกำเนิดปฎิกิริยาในด้านอื่นๆอีก

****รับประทานผลไม้สด****
เมื่อพูดรับประทานผลไม้สดก็จะนึกถึง ผลไม้หั่นเป็นชิ้นๆ เคี้ยวแล้วรีบกลืนลงท้อง ความจริงไม่ง่ายเช่นนั้น  ถ้าต้องการกินให้ได้ผล ต้องพิถีพิถันในเวลารับประทานผลไม้ดังกล่าว
อะไรคือ...การกินแบบถูกวิธี ?

**** อย่ากินผลไม้หลังอาหาร ****
(Eat)(Eat)ควรกินช่วงเวลาที่ท้องว่างเท่านั้น เช่นนี้แล้วผลไม้ถึงจะมีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อ และสามารถให้พลังงานแก่ร่างกาย รวมถึงลดความอ้วนได้อีกด้วย และมีผลต่อการร่วมและการก่อกำเนิดปฎิกิริยาในด้านอื่นๆอีก ผลไม้จึงจัดว่าเป็นอาหารที่มีส่วนสำคัญต่อการดำรงชีวิต
ลองนึกภาพดู ถ้าเรากินขนมปัง 2 แผ่น(Choco Toast)(PB Toast)(Waffle) หลังจากนั้น กินผลไม้ 1 ชิ้น ตามหลักแล้ว ผลไม้จะผ่านผนังกระเพาะอาหารก่อนเข้าสู่ลำไส้ แต่กลับถูกขวางทางจากอาหารอื่นที่รับประทานก่อน เมื่อผลไม้ที่กินเข้าไปผสมกับอาหารและน้ำย่อยที่เป็นกรดในกระเพาะอาหาร สรรพคุณผลไม้ก็ถูกเปลี่ยนไปด้วย

***(Grapefruit)(Papaya)(Apple)(Banana)(Raspberry)(Banana)(Apple)(Orange)(Lime)(Grapefruit)(Lemon)
การรับประทานผลไม้ก่อนอาหาร (Grapefruit)(Lemon)(Papaya)(Apple)(Banana)(Raspberry)(Lime)(Orange)***
****การรับประทานผลไม้ก่อนอาหาร****
หลังอาหารแล้วรับประทานผลไม้ คุณคงเคยได้ยินคนบ่นว่า ทุกครั้งที่กินแตงโมก็จะสะอึก(watermelon)(banana)(grapes)(eggplant)(strawberry)(pumpkin) ถ้ากินทุเรียนท้องจะจุก หากกินกล้วยหอมจะระบายอ่อนๆ เป็นต้น(banana)(sweet potato)(grapes)(eggplant)(strawberry)(red apple)(watermelon)(melon)(pear) ซึ่งล้วนแต่มาจากผลไม้และอาหารที่เริ่มย่อยสลายผสมผสานจนเกิดแก๊สขี้น
แต่ทว่าถ้ารับประทานผลไม้ก่อนรับประทานอาหาร ก็จะไม่เกิดเหตุดังกล่าว ผมขาว ผมร่วงศีรษะล้าน เคร่งเครียด นอนไม่ค่อยหลับจนขอบตาดำ เมื่อทานผลไม้ในขณะท้องว่าง ลักษณะดังกล่าวเบื้องต้นก็จะจางหายไป
(cherry)(pear)(watermelon)(melon)(pineapple)(red apple)(strawberry)(sweet potato)(grapes)(eggplant)(banana)(pumpkin)
ดร. เฮ่อโป๋ ได้บอกผลวิจัยไว้ว่า เมื่อผลไม้เข้าสู่ร่างกายจะมีผลเป็นด่าง ดั่งเช่น ส้ม หรือมะนาวที่มีรสเปรี้ยวก็ตาม(melon)(melon)(melon) ก็ล้วนเป็นอาหารที่มีความเป็นด่าง ประเด็นสำคัญคือการรับประทานผลไม้ในเวลาที่ท้องว่าง เพื่อให้ผลไม้ได้ช่วยเสริมความสวยงาม และอายุจะได้ยืนยาวนาน สุขภาพแข็งแรง มีพลามัยที่ดี มีความสุขและหุ่นดีอีกด้วย เมื่อคุณคิดจะดื่มน้ำผลไม้(juice)(juice)(juice)(juice)(cocktail) ก็อย่าดื่มน้ำผลไม้กระป๋อง อย่านำผลไม้หรือน้ำผลไม้ไปอุ่นให้ร้อน เพราะจะเหลือเพียงรสชาติ คุณประโยชน์ที่ดีของผลไม้จะถูกทำลายสิ้น การรับประทานผลไม้ทั้งลูกย่อมดีกว่าดื่มน้ำผลไม้ แต่ถ้าต้องดื่มน้ำผลไม้ต้องดื่มเป็นคำคำ เพื่อให้น้ำลายได้คลุกเคล้ากันให้ทั่ว ก่อนดื่มลงไป
คุณสามารถรับประทานผลไม้ 3 วัน ติดต่อกัน เพื่อชะล้างร่างกายให้สะอาด ผิวพรรณจะนวลผ่อง ผู้พบเห็นจะตื่นตาตื่นใจ

กีวี(Kiwi)(Kiwi)(Kiwi)(Kiwi)(Kiwi)(Kiwi)(Kiwi)
ผลเล็กแต่มากด้วยสรรพคุณ ประกอบด้วยสาร โปตัสเซี่ยม แมกเนเซี่ยม วิตามินE และไฟเบอร์ มีวิตามินC เป็น 2 เท่าของผลส้ม

แอปเปิล(red apple)(red apple)(red apple)(red apple)
มีวิตามีC ต่ำ มีสารต้านอนุมูลอิสระที่จะช่วยให้วิตามินCตื่นตัว ช่วยลดการเกิดมะเร็งในลำใส้ โรคหัวใจและโรคลมชัก จึงมีคำพังเพยที่ว่า “รับประทานแอบเปิลวันละผล แพทย์จะจน เพราะทุกคน สุขภาพดี”

สตรอเบอรี่(strawberry)(strawberry)(strawberry)(strawberry)(strawberry)
เสมือนหนึ่งเป็นผู้คุ้มกันปกป้องร่างกายเพื่อให้มีสุขภาพที่ดี จึงได้รับฉายาว่า ราชาแห่งผลไม้ เพราะสารต้านอนุมูลอิสระ ปกป้องมิให้เกิดมะเร็ง การแข็งตัวของเลือดที่เกิดขึ้นในหลอดเลือดและสารอนุมูลอิสระ

ส้ม(orange)(orange)(orange)(orange)(orange)(orange)
รับประทานวันละ 2-4 ผล สามารถต่อต้านไข้หวัด ลดคอเลสเตอรอล ป้องกันหรือสลายนิ่วในไต ลดการเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งลำใส้

แตงโม(watermelon)(watermelon)(watermelon)(watermelon)
ประกอบด้วยน้ำถึง 95% :ซึ่งแก้กระหายได้ดี มีกลูตาไธโอนเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน มีตัวสำคัญของไลโคปีน สารต้านอนุมูลอิสระ วิตามิน C และโปแทสเซี่ยม

ฝรั่งและมะละกอ(pear)(pear)(pear)(Papaya)(Papaya)(Papaya)(Papaya)
มีวิตามิน C มากที่สุด ฝรั่งมีไฟเบอร์มากซึ่งแก้ท้องผูกได้ดี มะละกอ จะมีแคราตินส่งผลดีต่อดวงตา

เชื่อหรือไม่(Lemonade)(Iced Tea)(Orange Juice)(Green Smoothie) ดื่มน้ำเย็นหลังอาหารก็จะเกิดมะเร็งได้ง่าย ดังนั้นหลังอาหารแล้วควรดื่มน้ำร้อน(Japanese Tea Set)(Japanese Tea Set)(Coffee Mug)(Coffee Mug) เพราะน้ำเย็นจะทำให้ไขมันที่กินเข้าไปแข็งตัว ซึ่งส่งผลเสียต่อการย่อย
ไขที่แข็งตัวทำปฎิกิริยากับกรดในกระเพาะ ทำให้ไขเป็นเกล็ดเล็ก ซึ่งง่ายต่อการดูดซึมในลำใส้ และจะฝังในผนังของลำใส้ ก่อตัวเป็นไขมัน ก่อให้เกิดมะเร็งนั่นเอง(Espresso)(Cappuccino)(Japanese Tea Set)(Coffee Mug)(Tea)(Iced Tea)(Lemonade)(Orange Juice)(Green Smoothie)(Bottled Water)(Bottled Water)(Bottled Water)(Bottled Water)

No comments:

Post a Comment